การทดลองที่ 4
True RMS Measurement and Calculation
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้นักศึกษาเห็นความแตกต่างการเลือกใช้เครื่องวัดสัญญาณ Non-Sine
1. เพื่อให้นักศึกษาสามารถวัดแรงดัน กระแส และกำลังไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง
2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถคำนวณแรงดัน กระแส และกำลังไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อให้นักศึกษาสรุปความสัมพันธ์ว่า P = VxI ที่ถูกต้องเป็นเช่นไร
อุปกรณ์
1. DC Power supply HY3003F – 3 ยี่ห้อ Glentest 1 เครื่อง
- 2 Chanel Digital storage oscilloscope ยี่ห้อ Metrix รุ่น OX 6062 1 เครื่อง
- Portable Single Phase Wattmeter Type 2041 ยี่ห้อ YEW 1 ตัว
- True RMS Multimeter ยี่ห้อ Fluke รุ่น 115 1 เครื่อง
- True RMS Multimeter ยี่ห้อ Fluke รุ่น 26 III 1 เครื่อง
- Power Meter ยี่ห้อ Metrix รุ่น PX120 1 ตัว
- AC + DC + To Clamp Meter ยี่ห้อ Chauvin Arnoux (CA) รุ่น FOT 1 ตัว
- I to V Transducer (Hall Effect) 2 กล่อง
- Rectifier 600V 4A 1 กล่อง
- Resistive Load(R) 1 กล่อง
- Panell Meter Box ยี่ห้อ NPE รุ่น SA-9621 4U-D1-W2 1 เครื่อง
- DC Amp meter ชนิด Analog 1 ตัว
- Junction box 1 กล่อง
ทฤษฎี
โดยทั่วไปแล้วกำลังงานในระบบไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
กำลังงานจริง (real power) มีหน่วยเป็นวัตต์ หรือกิโลวัตต์ (W or kW) เป็นกำลังงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงโดยอุปกรณ์ไฟฟ้าไปเป็นพลังงานรูปอื่นได้ เช่น ความร้อน แสงสว่าง หรือพลังงานกล กำลังงานส่วนนี้เกิดจากกระแสไฟฟ้าใช้งาน(active current : P) และอีกส่วนหนึ่งคือ กำลังงานรีแอกตีฟ (reactive power : Q) มีหน่วยเป็นวาร์หรือกิโลวาร์ (VAR or kVAR) เป็นกำลังงานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังงานรูปอื่นได้ แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องทำงานโดยอาศัยสนามแม่เหล็ก เช่น หม้อแปลง มอเตอร์ บัลลาสต์ ฯลฯ ต้องใช้กำลังรีแอกตีฟนี้สร้างสนามแม่เหล็ก ถ้าไม่มีสนามแม่เหล็กอุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่สามารถทำงานได้ กำลังงานในส่วนนี้เกิดจากกระแสไฟฟ้ารีแอกตีฟ (reactive current)
กำลังงานปรากฎ (apparent power : S) มีหน่วยเป็นโวลต์ แอมแปร์ หรือกิโลโวลต์แอมแปร์ (VA orkVA) เป็นกำลังงานที่แหล่งจ่ายกำลังงานไฟฟ้าต้องจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ และมีขนาดเท่ากับ ผล
คูณของกระแสไฟฟ้าในวงจร กับแรงดันของแหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า กำลังงานทั้งสามสามารถเขียนเป็น
สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้าได้ดังรูปที่ 1
การทดลอง
จ่ายแรงดันเป็นสัญญาณรูปคลื่น เป็น DC , Half Wave , Full Wave แล้วบันทึกค่าได้ผลดังตาราง
ประเภทสัญญาณจากแหล่งจ่าย |
Vm |
V |
A |
V x A |
W เข็มชี้ | W True RMS |
∆W | % Error % Error =100 x |ค่าคำนวณ - ค่าจริง| / ค่าจริง |
DC | 30 | 29.6 | 0.356 | 10.54 | 9 | 10.6 | 0.06 | 0.57 |
Half Wave | 305.1 | 101.2 | 0.455 | 46.05 | 108.4 | 111.1 | 65.05 | 58.55 |
Full Wave | 304.9 | 202 | 0.777 | 156.95 | 188 | 188.8 | 31.85 | 16.87 |
สรุปผลการทดลอง
จากการทดลอง % Error จะมีค่าสูงสำหรับสัญญาณที่ไม่ใช่ DC เป็นเช่นนี้เนื่องจาก สูตร P = IV คำนวณกำลังไฟฟ้าได้ถูกต้องเฉพาะในสัญญาณ DC เท่านั้น สำหรับสัญญาณอื่นๆ คำนวณได้โดยนำค่า IV มาคูณด้วย Form Factor ของสัญญาณนั้นๆ เพื่อเปลี่ยนเป็นค่า RMS ก่อนจะทำการคำนวณหากำลังไฟฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น